จุดเริ่มต้น ในตอนทศวรรษ 1990 มาจนกระทั่งตอนต้นๆ ของทศวรรษ 2000 นั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ อาร์แซน เวนเกอร์ นับว่าเป็นผู้จัดการทีมคู่ปรปักษ์ที่ดุดันเยอะที่สุด
จุดเริ่มต้น ในตอนทศวรรษ 1990 มาจนกระทั่งตอนต้นๆ ของทศวรรษ 2000 นั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับ อาร์แซน เวนเกอร์ นับว่าเป็นผู้จัดการทีมคู่ปรปักษ์ ที่ดุดันเยอะที่สุด เป็นอันดับ 1 ของวงการฟุตบอล อังกฤษก็ว่าได้
จากการที่ขณะนั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด กับอาร์เซน่อล ของพวกเขาเป็น 2 ทีมที่ลุ้นแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก กันโดยตรง ความผิดใจกันระหว่างทั้งสองนำไปสู่วาทะกรรมที่เด็ดๆ หลายครั้ง ซึ่งเวลานี้ หลายท่าน ก็ถึงขนาดเคย มีความคิดว่า ทั้งสองจะไม่มีทางคืนดีกัน ได้แน่นอน
ถึงแม้ว่าจะจะมีใคร กันแน่ผู้ใด ผู้หนึ่งตกลงใจวางมือ จากการควบคุมกลุ่มไป แล้วหลังจากนั้นก็ตาม แต่กระนั้น มันเปลี่ยนไปเป็นว่า ทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดี ต่อกันภายหลังจากผ่านไปพักหนึ่ง และก็ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็ถึงกับขนาดมีการพูดชมกันด้วย
แน่ๆว่าลึกๆแล้วนั้นทั้งสองต่างก็ให้ความนับถือกันและกันในระดับหนึ่งตั้งแต่เวลาที่พวกเขาดวลกันแล้ว แม้กระนั้นการจะก่อให้กำเนิดอะไรขึ้นมาได้มันก็ควรจะมีสิ่งที่เรียกว่า “จุดกำเนิด” รวมทั้งอะไรที่น่าจะเป็นเส้นสตาร์ตของการสมานฉันท์ระหว่าง 2 ตำนานผู้จัดการทีมของ พรีเมียร์ลีก ?
บางคนคิดว่าการที่สมาคมผู้จัดการทีมในอังกฤษ (แอลเอ็มเอ) เคยนัดแนะให้ทั้ง 2 คนมาเจอกันเมื่อปี 2008 คือสิ่งที่ทำให้เกิดความสมานฉันท์ระหว่างทั้งคู่ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะหลังจากนั้นเป็นต้นมาทั้งคู่ยังแทบจะไม่ได้ดื่มไวน์หลังจบเกมการแข่งขันร่วมกันเลย
ทั้งที่มันเป็นธรรมเนียมที่วงการฟุตบอลอังกฤษมักจะทำกันบ่อยๆ ดิ๊ค ลอว์ อดีตเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการเสริมทัพของอาร์เซน่อล ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่สนิทกับ เวนเกอร์ อย่างมากด้วยนั้น ได้ให้คำตอบที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นมิตรแท้ระหว่างทั้งคู่
จุดเริ่มต้น โดยเขาบอกว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน ปี 2013 หรือก็คือตรงกับเกมลีกนัดที่อาร์เซน่อล เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด บ้านผลบอล 7M

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาร์เซน่อล ของพวกเขาเป็น 2 ทีมที่ลุ้นแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก กันโดยตรง
จุดเริ่มต้น เกมดังกล่าวไม่มีความหมายกับ แมนฯยูไนเต็ด แล้ว เพราะพวกเขาการันตีแชมป์ลีกไปได้เป็นที่เรียบร้อย ในทางกลับกันอาร์เซน่อล จำเป็นต้องได้ผลการแข่งขันที่ดีเพื่อที่จะได้ติดอยู่ใน 4 อันดับแรกของตารางคะแนนได้ ก่อนที่สุดท้ายเกมจะจบลงที่การเสมอกัน 1-1
หลังจากสิ้นเสียงนกหวีดยาวแล้วนั้น เวนเกอร์ กับสตาฟฟ์ของอาร์เซน่อล ก็เข้าไปที่ห้องทำงานของ เวนกอร์ ภายใน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ตามที่ทำกันอยู่บ่อยๆ มันเป็นห้องที่เรียบง่ายจากการมีโซฟาตั้งอยู่ 2 ข้าง โดยที่มีโต๊ะตั้งคั่นเอาไว้ตรงกลาง
ในตอนนั้นเองที่มีแขกซึ่งคาดไม่ถึงมาที่ห้อง ใช่แล้ว นั่นคือ เฟอร์กูสัน นั่นเอง ลอว์ เผยว่า “การที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โผล่มาที่ออฟฟิศของผู้จัดการทีมมันเป็นเรื่องที่พิเศษมากๆ ผมบอกได้เลยว่าตลอดช่วงหลายปีก่อนหน้านั้นน่ะ
มันมีเพียงไม่กี่ครั้งที่ เซอร์ อเล็ซ์ จะเดินจากห้องแต่งตัวของทีมเยือนมายังห้องทำงานของผู้จัดการทีม มันน้อยจนผมสามารถนับด้วยมือข้างเดียวโดยที่ไม่ต้องใช้ครบ 5 นิ้วได้ด้วยซ้ำไป” “ความเป็นคู่อริกันระหว่างทั้งคู่มันดุเดือดมากๆ
จนถึงขั้นที่ไม่มีใครลดราวาศอกให้กัน มีหลายครั้งที่ความขมขื่นจากผลการแข่งขันที่ไม่เป็นใจมันทำให้เกิดเรื่องที่บานปลาย พูดง่ายๆ ก็คือก่อนที่จะถึงวันนั้นน่ะทั้งคู่เกลียดกันมากๆ” “วันนั้น เซอร์ อเล็กซ์ ทักทายกับสตาฟฟ์โค้ชของอาร์เซน่อล ด้วยดี
และก่อนที่ผมจะรู้สึกตัวน่ะเขากับ อาร์แซน ก็ไปนั่งคุยกันแล้ว ทุกคนตัดสินใจ อยู่ห่างจากทั้งคู่ มันเป็นช่วงเวลา ที่พิเศษมากๆ คู่อริที่ดวลกัน มาอย่างยาวนาน แต่ตอนนั้นมานั่ง ด้วยกันและคุยกันอย่างสบายๆ สิ่งที่เราเห็นในออฟฟิศ ของผู้จัดการทีม
ในวันนั้นมันไม่มีบรรยากาศ ของความวุ่นวาย หลังจบเกมแบบที่เคยเกิดขึ้นเลย มันเหมือนเป็นการบอกลากันมากกว่า” ใช่ มันเป็นการบอกลากันจริงๆ เพราะในอีก 10 วันหลังจากนั้น หรือวันที่ 8 พฤษภาคม ปี 2013 เฟอร์กูสัน
จุดเริ่มต้น ก็ประกาศวางมือจากการเป็นกุนซือของ แมนฯยูไนเต็ด จนเป็นการยุติการดวลกึ๋นในสนามของ 2 กุนซือระดับพระกาฬของ พรีเมียร์ลีก ไปในตัว แต่ความเป็นเพื่อนแท้ระหว่างทั้งคู่น่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนแล้ว คล็อปป์เหมือนแค้น