หลังเสียประตู ความพยายามของ ดอร์ทมุนด์ มาประสบผลต้องรอถึงนาทีที่ 37 โธมัส เมอนิเย่ร์ ครอสบอลมาให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ โขกเข้าไปตุงตาข่ายให้ “เสือเหลือง” ไล่ตีเสมอ 1-1
หลังเสียประตู ความพยายามของดอร์ทมุนด์ มาประสบผล ต้องรอถึงนาทีที่ 37 โธมัส เมอนิเย่ร์ ครอสบอลมาให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ โขกเข้าไปตุงตาข่ายให้ “เสือเหลือง” ไล่ตีเสมอ 1-1 อีกสองนาทีถัดมา “เสือเหลือง” ชวดได้ประตู
แซงขึ้นนำหลัง เมอนิเย่ร์ ครอสบอล มาหน้าประตู เหมือนเดิม เออร์ลิง ฮาแลนด์ ขึ้นโขกก่อนบอล จะลอยตั้งให้ จู๊ด เบลลิงแฮม สอดมาโขกบอล เสียบเสาไกล ทว่าผู้ตัดสินหลังวิ่งไป ดูจอมอนิเตอร์ ข้างสนามปฎิเสธไม่ให้ประตู
แก่ทีมเยือนหลัง ก่อนหน้านั้น มาห์มูด ดาห์อูด ไปทำฟาวล์ใส่แข้งเจ้าบ้านก่อน ช่วงทดเจ็บ นาที45+1 กลายเป็น “ห้างยา” ที่มาพังประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะโต้กลับ ขึ้นมาของเจ้าถิ่น โฟลเรียน เวียร์ทซ์
หลังเสียประตู ไหลทะลุช่องให้ พาทริค ชิค หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือ เกรกอร์ โคเบล เบียดเสาไกลเข้าไป บ้านผลบอล 7M
จบครึ่งแรก เลเวอร์คูเซ่น นำ ดอร์ทมุนด์ 2-1
หลังเสียประตู ครึ่งหลัง แค่นาที 49 “เสือเหลือง” มาไล่ตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ บอลขึ้นมาทางขวา ฝากเข้ากลางให้ ฮาแลนด์ ชิ่งเร็วให้ ยูเลี่ยน บรันด์ท หลุดไปซัดมุม แคบเบียดเสา เข้าไปสุดคมกริบ
เกมแลกกันสนุก นาที55 เจ้าถิ่น เลเวอร์คูเซ่น มาพลิกขึ้นนำ อีกครั้งหลัง แนวรับเสือเหลือง เคลียร์บอลไป เข้าทาง มุสซ่า ดิยาบี้ เก็บบอลได้แถวสอง ซัดด้วยซ้ายทีแรกหวืด แต่บอลยังมา เข้าขวาตะบัน นอกกรอบบอล
พุ่งเบียดเสาเข้าไป อย่างเฉียบขาดให้ “ห้างยา” แซงนำ 3-2 ทว่า ลูกทีมของ มาร์โค โรเซ่ ไม่ยอมแพ้ นาที71 มาไล่ตีเสมอ 3-3 ได้อีกหน จากจังหวะได้ฟรีคิก หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะเป็น ราฟาแอล เกร์เรยโร่ วิ่งมาปั่นด้วย ซ้ายบอลพุ่ง
ข้ามกำแพงเสียบตาข่าย เข้าไปหมดสิทธ์ที่ ลูคัส ราเดชกี้ จะป้องกัน นาที75 แฟนห้างยาต้องเงียบกริบ หลังผู้ตัดสินวิ่งไป เช็กวีเออาร์ จากจอข้างสนาม ก่อนจะเป่าให้จุดโทษ แก่เสือเหลือง จากจังหวะที่ โอดิลอน คอสซูนู แนวรับเจ้าถิ่น
พยายามบังบอล ออกหลังแต่แขนไป ฟาดใส่หน้า มาร์โค รอยส์ จนกุมหน้าล้มลงไป ก่อนจะเป็น เออร์ลิง ฮาแลนด์ รับหน้าที่ซัดจุดโทษเข้าไปไม่พลาดให้ ดอร์ทมุนด์ บุกมาเจ้าถิ่น 4-3 จบเกม ดอร์ทมุนด์ บุกมาปราบ เลเวอร์คูเซ่น แบบสุดมันส์ 4-3
ซิวสามแต้มพร้อมแซงขึ้นรองจ่าฝูง รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เลเวอร์คูเซ่น (4-2-3-1) : ลูคัส ราเดชกี้ – เฌเรมี่ ฟริมปง , โยนาธาน ทาห์, โอดิลอน คอสซูนู, มิทเชลล์ บัคเกอร์ – โรเบิร์ต อันดริช, เคเรม เดเมียร์บาย – มุสซ่า ดิยาบี้, โฟลเรียน เวียร์ทซ์, เปาลินโญ่ – พาทริค ชิค
หลังเสียประตู เทรนเนอร์ : เคราร์โด้ เซโอเน่ ดอร์ทมุนด์ (4-3-2-1) : เกรกอร์ โคเบล – โธมัส เมอนิเย่ร์, มานูเอล อคานจี, มาริน พอนกราซิช, ราฟาแอล เกร์เรยโร่ – มาห์มูด ดาห์อูด, อั๊กเซล วิตเซล, จู๊ด เบลลิงแฮม – มาร์โค รอยส์, ยูเลี่ยน บรันด์ท – เออร์ลิง ฮาแลนด์ เทรนเนอร์ : มาร์โค โรเซ่ โซลชายังเล่นอยู่