ค่าเหนื่อยเยอะสุด ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าหนึ่งในต้นสายปลายเหตุที่ทำให้นักฟุตบอลจะยอมเล่นให้กับสโมสรใดชมรมหนึ่งนั้นเป็นเรื่องของ “ค่าเหนื่อย”
ค่าเหนื่อยเยอะสุด ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าหนึ่งในต้นสายปลายเหตุที่ทำให้นักฟุตบอลจะยอมเล่นให้กับสโมสรใดชมรมหนึ่งนั้นเป็นเรื่องของ “ค่าเหนื่อย” ยิ่งมีการประเคนค่าตอบแทนให้มากแค่ไหน มันก็จะยิ่งสามารถชักชวนให้ลำแข้งคนนั้นๆ ยอมอยู่กับทีมได้มากขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็แล้วแต่ มันไม่ได้หมายความว่าผู้ที่ได้รับค่าจ้างสูงนั้นจะทำผลงานได้สมกับเงินที่ได้รับเสมอ ซึ่งวันนี้พวกเราจะมาดูกันหน่อยว่าใน 20 ทีมของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลเดี๋ยวนี้นั้น คนใดที่เป็นผู้รับค่าจ้างสูงสุดของแต่ละทีม โดยจะเป็นจำนวนเงินที่นับรวมโบนัสต่างๆ เข้าไปแล้วด้วย
อาร์เซน่อล : ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง 250,000 ปอนด์ต่ออาทิตย์ นับว่าเป็นเงินที่ อาร์เซน่อล ยอมประเคนให้กับจอมบุกชาวกาบองในขณะที่จับเขาต่อสัญญาเมื่อช่วงซัมเมอร์ ปี 2020 ซึ่งในช่วงเวลานั้นมันดูเป็นจำนวนเงินที่มีเหตุผล
เมื่อพิจารณาถึงการที่ก่อนหนานั้น โอบาเมยอง ทำผลงานได้เหมาะสมที่สุด แต่ว่าน่าประหลาดใจอย่างยิ่งที่ต่อจากนั้นมาอดีตกาลลำแข้ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็ฟอร์มตกแบบน่าตกใจ แอสตัน วิลล่า : แดนนี่ อิงส์
เนื่องจากว่าปรารถนาหาผู้ที่จะมาแบกทีมแทน แจ็ค กรีลิช ที่โดนขายไปให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตอบแทน 100ล้านปอนด์ ทำให้ วิลล่า เป็นไปไม่ได้เลือกนอกเหนือจากที่จะจำต้องยอมมอบค่าแรงงานให้กับ อิงส์ มากถึงสัปดาห์ละ 120,000ปอนด์
เพื่อดึงเขามาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ในตอนซัมเมอร์ก่อนหน้าที่ผ่านมา แม้กระนั้นจำนวนเงินที่จ่ายไปบางครั้งก็อาจจะคุ้มค่าก็ได้ภายหลังที่ อิงส์ ยิงให้ทืมไปแล้ว 2 ประตูจากการลงเล่น 3นัดหมาย เบรนท์ฟอร์ด : พอนตุส ยานส์สัน
การที่พวกเขาเป็นเพียงแค่ทีมสมาชิกใหม่ทำให้ภาระหน้าที่ค่าใช้สอยด้านค่าแรงของ เบรนท์ฟอร์ด ไม่ได้สูงล้นหลามอะไร ถึงแม้ว่า ยานส์สัน จะเป็นผู้ที่ฟันค่าแรงสูงที่สุดของทีม แม้กระนั้นมันก็อยู่ที่อาทิตย์ละ 25,000 ปอนด์แค่นั้น
โดยแนวรับชาวาสวีดิชอยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2019 แล้วก็ทำผลงานได้โดดเด่นในระดับหนึ่งจนกระทั่งขั้นได้รับการตั้งเป็นกัปตันทีมเลย ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน : อดัม ลัลาน่า ไบรท์ตันฯ ตกลงใจดึง ลัลลาน่า มาอยู่กับทีมแบบไม่มีคุณค่าตัวด้วยข้อตกลง 3ปี
เมื่อตอนซัมเมอร์ ปี 2020 ซึ่งจากการที่ไม่ต้องเสียเงินเสียทองค่าจ้าง รวมทั้งจำเป็นต้องแย่งตัวเขากับทีมอื่นๆตอนหลังเจ้าตัวเพิ่งจะหมดสัญญากับ ลิเวอร์พูล ขณะนั้น ทำให้ ไบรท์ตันฯ มั่นใจว่าค่าแรง 90,500 ปอนด์ต่ออาทิตย์มันจะเป็นการจ่ายที่คุ้มค่า
แต่ว่าจำเป็นต้องเห็นด้วยว่าฤดูกาลแรกของ ลัลลาน่า กับทีมออกมาไม่ดีเท่าไรนัก ข้างหลังทำเป็นเพียงแค่ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์จากการลงเล่นในลีก 30 เกม และก็จะต้องรอดูว่าในช่วงฤดูกาลนี้เขาจะเล่นได้คุ้มค่าจ้างรึเปล่า
เบิร์นลี่ย์ : เบน มี แม้จะเคยตกเป็นข่าวกับการย้ายทีมอยู่บ้าง ค่าเหนื่อยเยอะสุด แต่ มี ก็ยังจงรักภักดีกับทีมที่เขาค้าแข้งให้มาตั้งแต่ปี 2011 หลังจากตอนแรกเจ้าตัวมาอยู่กับ เบิร์นลี่ย์ ในสัญญายืมตัว ก่อนที่จะได้ซบทีมแบบถาวร
โดยทัพ “เดอะ คลาเร็ตส์” ก็ตอบแทนแกนหลักของทีมด้วยการให้ค่าเหนื่อยเขาในระดับสัปดาห์ละ 55,000ปอนด์ เชลซี : โรเมลู ลูกากู นักเตะที่ทำประตูใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ได้ถึง 47 ลูกใน 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ย่อมไม่ใช่คนที่ธรรมดา
ด้วยเหตุนี้ เชลซี เลยยอมควักค่าเหนื่อยให้กับ ลูกากู มากถึง 325,000ปอนด์ต่อสัปดาห์ เพื่อเป็นการเอาเขากลับมาสู่อ้อมอกของทีม และตอนนี้เขาก็ทำประตูแรกให้กับทีมได้แล้วด้วย คริสตัล พาเลซ : วิลฟรีด ซาฮา
ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซาฮา ถือเป็นนักเตะสตาร์เบอร์ 1 ของทัพ “ดิ อีเกิ้ลส์” ด้วยความที่เขามีลีลาการลากเลื้อยที่โดดเด่น และทำเกมได้ดีในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ซาฮา ยังถือเป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของ พาเลซ
ค่าเหนื่อยเยอะสุด โดยตรงอีก มันจคงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะได้ค่าเหนื่อยมากถึงสัปดาห์ละ 130,000ปอนด์ บ้านผลบอล 7M
เรื่องของ “ค่าเหนื่อย” ยิ่งมีการประเคนค่าตอบแทนให้มากแค่ไหน
ค่าเหนื่อยเยอะสุด เอฟเวอร์ตัน : เยร์รี่ มีน่า ใช่แล้ว หลายคนอาจจะแปลกใจที่รายของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ไม่ใช่ ฮาเมส โรดริเกซ โดยปราการหลังชาวโคลอมเบียได้รับค่าเหนื่อยจาก เอฟเวอร์ตัน สูงถึง 120,000ปอนด์ต่อสัปดาห์
ขณะที่ ฮาเมส ได้เงินอยู่ที่สัปดาห์ละ 90,000ปอนด์ ซึ่งหลังจากที่ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรในช่วงแรกๆ ที่ย้ายมาจาก บาร์เซโลน่า แต่ตอนนี้ มีน่า ก็เริ่มปรับปรุงฟอร์มของตัวเองได้จนคู่ควรกับการเป็นคนที่รับค่าเหนื่อยเยอะที่สุดของทีมแล้ว
ลีดส์ ยูไนเต็ด : ราฟินญ่า ดาวเตะชาวบราซิเลียนนับเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของ ลีดส์ หลังเพิ่งย้ายมาอยู่กับทีมเมื่อปี 2020 ซึ่งเขาก็ทำผลงานได้โดดเด่นจนเรียกว่าดีกว่าค่าเหนื่อย 63,500 ปอนด์ต่อสัปดาห์ที่ได้รับอยู่กับทีมในตอนนี้ด้วยซ้ำ
และหลายคนก็เชื่อว่าเขาคงจะได้ค่าเหนื่อยมากกว่าเดิมในเร็วๆ นี้ คำถามอยู่ที่ว่าจะเป็นกับที่ ลีดส์ หรือเป็นกับที่อื่นเท่านั้น เลสเตอร์ ซิตี้ : เจมี่ วาร์ดี้ หลายคนคงไม่เซอร์ไพรส์เท่าไหร่ที่ วาร์ดี้ คือคนที่ได้รับค่าเหนื่อยเยอะที่สุดของ “สุนัขจิ้งจอก”
ค่าเหนื่อย 190,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ถือเป็นเม็ดเงินที่สมเหตุสมผลแล้วเมื่อต้องจ่ายให้กับแข้งคนสำคัญที่เคยพาทีมได้แชมป์พรีเมียร์ลีก, ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำอย่างต่อเนื่อง และจงรักภักดีกับทีมแม้จะเป็นที่สนใจของหลายสโมสรก็ตาม
ลิเวอร์พูล : เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ หากทีมของคุณมีนักเตะระดับ “กองหลังที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลก” อยู่ในทีมแล้วล่ะก็ คุณก็ต้องรั้งตัวเขาให้อยู่กับทีมนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ลิเวอร์พูล เองก็ทำแบบนั้น
เพราะพวกเขายอมประเคนค่าเหนื่อยให้ ฟาน ไดค์ สูงถึงสัปดาห์ละ 220,000ปอนด์ ซึ่งมันก็ถือเป็นการจ่ายเงินที่คุ้มค่าเมื่อพิจารณาถึงการที่ผลงานของ ฟาน ไดค์ แทบไม่ดร็อปลงไปเลย แมนฯ ซิตี้ : เควิน เดอ บรอยน์
ท่ามกลางเหล่านักเตะระดับค่าตัวแพงระยับในขุมกำลังของ “เรือใบสีฟ้า” เดอ บรอยน์ คือคนที่ถูกมองว่าเป็นคนที่มีความสำคัญกับทีมมากที่สุด หลังจากที่เขาช่วยปั้นเกมบุกให้กับทีมได้อย่างยอดเยี่ยม
ซึ่งนั่นก็ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ยอมจ่ายค่าเหนื่อยให้เขาถึง 385,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แมนฯ ยูไนเต็ด : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปัจจุบันในขุมกำลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะระดับที่ได้ค่าเหนื่อยเกิน 250,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์อยู่ถึง 8 คน
แต่อีก 7 รายที่เหลือไม่ได้รับเงินในระดับที่ใกล้เคียงกับของ โรนัลโด้ เลย ค่าเหนื่อยเยอะสุด เพราะแข้งชาวโปรตุกีสได้ค่าเหนื่อยโดยรวมมากถึง 510,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในการกลับมาสู่บ้านอันเป็นที่รักของเขาบนเกาะอังกฤษ
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด : โชลินตอน แม้ว่าดาวเตะชาวบราซิเลียนจะทำผลงานได้น่าประทับใจในระดับหนึ่งตอนอยู่กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ แต่หลายคนก็แปลกใจพอตัวที่ นิวคาสเซิ่ล ยอมทุ่มค่าเหนื่อยถึงสัปดาห์ละ 86,500ปอนด์ เพื่อเอาเขามาร่วมทัพเมื่อปี 2019
และจนถึงตอนนี้มันก็ไม่แปลกหากจะบอกว่ามันไม่ใช่การลงทุนที่คุ้มค่า เพราะแข้งเลือดแซมบ้าเพิ่งยิงไปเพียง 10 ลูกจากการลงเล่น 84 นัดในทุกรายการ นอริช ซิตี้ : เบน กิ๊บสัน 40,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ คือค่าเหนื่อยที่ กิ๊บสัน ได้รับกับทีม
และถึงแม้เขาจะเป็นคนที่ได้รับเงินจากสโมสรมากที่สุด มันก็ยังถือว่าน้อยกว่า แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ และ บิลลี่ กิลมัวร์ แข้งที่ นอริช ยืมมาจาก แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เชลซี ตามลำดับซะอีก เพียงแต่ต้นสังกัดของ 2 คนนั้นเป็นผู้ที่รับหน้าที่จ่ายค่าเหนื่อยให้กับพวกเขาเอง
ไม่ใช่ นอริช ทำให้ตามหลักการแล้ว กิ๊บสัน คือคนที่ได้รับค่าเหนื่อยจาก นอริช โดยตรงมากที่สุด ซึ่งถึงแม้ฤดูกาลก่อนเขาจะทำผลงานได้โดดเด่นตอนมาเล่นกับทีมแบบยืมตัวจนได้ย้ายซบ นอริช แบบถาวร แต่ 3 นัดแรกของเซนเตอร์แบ็กวัย 28 ปีในฤดูกาลนี้มันก็ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก
ในเมื่อ นอริช เสียไปแล้วถึง 10 ประตูด้วยกัน เซาธ์แฮมป์ตัน : ธีโอ วัลค็อตต์ “นักบุญ” ตัดสินใจซื้อขาด วัลค็อตต์ ในช่วงซัมเมอร์ล่าสุด หลังจากที่ฤดูกาลก่อนยืมเขามาจาก เอฟเวอร์ตัน ซึ่งถึงแม้เขาจะได้รับค่าเหนื่อยน้อยกว่าตอนอยู่กับ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” 25 เปอร์เซ็นต์
แต่ปีกชาวอังกฤษก็ยังรับเงินจาก เซาธ์แฮมป์ตัน อยู่ที่สัปดาห์ละ 75,000 ปอนด์อยู่ดี และในการลงเล่นเกมลีก 2 นัดแรกของซีซั่นนี้เขาก็ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้ สเปอร์ส : แฮร์รี่ เคน ถึงแม้ เคน จะอดย้ายไปรับเงินก้อนโตกับทีมอื่น
แต่ในทัพ “ไก่เดือยทอง” เขาก็ยังเป็นคนที่ฟันค่าเหนื่อยเยอะที่สุดอยู่ดี เพราะได้เงินมากถึงสัปดาห์ละ 200,000ปอนด์ และมันก็ไม่ใช่เงินที่มากมายอะไรเลยเมื่อต้องจ่ายให้หนึ่งในกองหน้าชั้นนำของโลกลูกหนังในยุคนี้
วัตฟอร์ด : มูสซ่า ซิสโซโก้ เวลาคือสิ่งที่จะบอกได้ชัดเจนมากขึ้นว่าเขาคู่ควรกับการได้ค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 80,000 ปอนด์หรือไม่ หลังจาเพิ่งลงเล่นในลีกไปแค่นัดเดียวเท่านั้น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด : อันเดร ยาร์โมเลนโก้
เมื่อคุณจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะในเกมรุกมากถึงสัปดาห์ละ 115,000ปอนด์ คุณก็ย่อมคาดหวังว่าคนๆ นั้นจะเป็นแกนหลักของทีมและทำให้ทีมมีเกมรุกที่ดุดัน น่าเศร้าที่นับตั้งแต่ย้ายมาจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อปี 2018 ยาโมเลนโก้ ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่เรียกว่าคุ้มกับเม็ดเงินระดับนั้นได้เลย
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส : มูตินโญ่ มูตินโญ่ รับใช้ วูล์ฟส์ ได้เป็นอย่างดีนับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่กับทีมเมื่อปี 2018 จนทำให้เรียกได้ว่าเขาคู่ควรกับการที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นมิดฟิลด์ที่เก่งคนหนึ่งในสมัยหนุ่มๆ
ค่าเหนื่อยเยอะสุด และเขายังเป็นนักเตะ วูล์ฟส์ เพียงคนเดียวที่ได้รับค่าเหนื่อยแตะหลัก 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ด้วย โซลชาสวนคืน