เริ่มเกมมาได้เพียงไม่ถึง 5 นาที โรมา ก็ต้องเสีย จอร์แดน เวเรตูต์ มิดฟิลด์ตัวปั้นเกมไปให้กับอาการบาดเจ็บที่ดูเหมือนจะเป็นบริเวณแฮมสตริง
แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ครองเกมได้เหนือกว่าออกนำไปก่อนในนาทีที่ 8 จากประตูของ แฟร์นันดส์ ที่เริ่มด้วยการเลี้ยงแหวกแนวรับของ โรมา โดย ป็อกบา จากริมเส้นด้านซ้ายก่อนจะผ่านบอลไปให้ คาวานี ที่คิดไวจิ้มต่อถึง แฟร์นันดส์ ควบไปยิงทันที
นาทีที่ 14 โรมา ได้จุดโทษจากแฮนด์บอลของ ป็อกบา แล้วก็เป็น เปเญกรินี ที่สังหารไม่พลาดตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว 1-1
โรมา จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวอีกครั้งหลังจากที่ เปา โลเปซ นายประตูของพวกเขาบาดเจ็บจากการพุ่งตัวเซฟลูกยิงของ ป็อกบา ในนาทีที่ 27
ฟูลแบ็คของ โรมา ยังคงสร้างความอันตรายให้ ยูไนเต็ด ได้อย่างต่อเนื่อง
นาทีที่ 33 ทีมเยือนพลิกแซงได้สำเร็จจากประตูของ เชโก้
ยูไนเต็ด แม้จะครองเกมเหนือกว่าแต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับของผู้เล่น โรมา ที่ถอยลงไปแพ็คกันแน่นในแดนตัวเองได้และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 1-2
ออกสตาร์ทมาได้ 3 นาที คาวานี ก็ซัดตีเสมอได้ให้ ยูไนเต็ด ได้จากจังหวะสวนกลับที่บอลไปถึง แฟร์นันดส์ หน้ากรอบเขตโทษก่อนที่เขาจะผ่านไปให้ ‘เอล มาทาดอร์’ ที่วิ่งหนีตัวประกบไปยิงได้อย่างเฉียบขาด
จนถึงนาทีที่ 53 โอกาสยิงของ โรมา มีเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ในขณะที่เจ้าบ้านอยู่ที่ 10 ครั้ง
หลังจากบดมาอยู่นานในที่สุด คาวานี ก็มาตามซ้ำลูกยิงของ วาน-บิซซาก้า และกลับมานำอีกครั้ง 3-2 ในนาทีที่ 64
ไม่ทันไรก็ตามมาติดๆอีกลูกจากจุดโทษของ แฟร์นันดส์ ที่เริ่มจากการทำฟาวล์ใส่ คาวานี ของ สมอลลิง ในนาทีที่ 71
3 นาทีต่อมา ป็อกบา โหม่งลูกเปิดฟรีคิกของ บรูโน เข้าไปตุงตาข่ายทิ้งห่าง โรมา เละเทะ 5-2
เข้าสู่นาทีที่ 85 โรมา ยังไม่สามารถตั้งเกมได้เลยในครึ่งเวลาหลังและเป็น ยูไนเต็ด ที่ครองเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จ
คิดว่าจะหมดแล้วแต่ยัง! กรีนวู้ด ที่เพิ่งถูกส่งลงมาแทน แรชฟอร์ด บวกไปอีก 1 เม็ดเป็น 6-2 โอกาสเข้ารอบชิงของ ยูไนเต็ด สดใสมากทีเดียว
แม้จะนำห่างถึง 4 ประตูแต่ผู้เล่นของ ปีศาจแดง ก็ยังคงเดินหน้าหวังได้ประตูเพิ่มอีกสักนิดในขณะที่ผู้เล่น โรมา ถอยลงไปแพ็คเกมรับกันหมดแล้ว
หมดเวลาการแข่งขัน ยูไนเต็ด 6-2 โรมา