เวนเกอร์ยัน ขงเบ้งลูกหนังเลือดเฟร้นช์ เผยเรื่องจริงว่าสมัยที่ยังทำงานเคยได้รับการทาบทามจากสโมสรชั้นหนึ่งในลีกยุโรป
เวนเกอร์ยัน อดีตกุนซือ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงเผยข้อเท็จจริงว่าตนเคยได้รับคำแนะนำจาก “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้เข้ามาปฏิบัติภารกิจเป็นผู้จัดการทีมในตอนระหว่างที่ยังดำเนินการอยู่
ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศส ตัดสินใจอำลา อาร์เซน่อล เมื่อปี 2018 ภายหลังนั่งกุมบังเหียนมาอย่างนานถึง 22 ปี โดยเดี๋ยวนี้เขายังไม่หวนกลับมารับงานคุมกลุ่มไหนทั้งหมด รวมทั้งในยุคที่ยังโลดแล่นอยู่ในแวดวงลูกหนัง เวนเกอร์ ได้ชื่อว่าเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการนำสมาพันธ์แย่งชิงความยิ่งใหญ่ในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
ซึ่งปัจจุบันนี้อายุ 70 ปีแล้ว เปิดเผยว่าเคยได้โอกาสได้รับข้อแนะนำให้คุมชมรมใหญ่ๆมากมายรวมถึง แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย ขณะเดียวกันนี้เจ้าตัวยังบอกว่าเวลานี้กำลังไตร่ตรองเรื่องอนาคตว่าจะหวนกลับมาสู่แวดวงบอลไหม ภายหลังที่ไม่ยอมรับงานไปบ่อยมาก บ้านผลบอล
จากการให้สัมภาษณ์กับ “เดอะ ไทม์ส” สื่อดังระดับนานาชาติว่าเคยได้รับคำแนะนำจาก กรุงปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไหม โดย เวนเกอร์ ตอบว่า “ผมเคยรับข้อเสนอให้ดำเนินงานนั้น 2-3 ครั้ง” นอกจากนั้นเจ้าตัวยังการันตี บาเยิร์น มิวนิค, เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, ยูเวนตุส และกลุ่มชาติประเทศฝรั่งเศส ก็เคยยืนข้อเสนอแนะเช่นเดียวกัน
ส่วนปัญหาที่ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ยื่นข้อเสนอเพื่อดำเนินการที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หรือเปล่า ประเด็นนี้ ตำนานนายใหญ่ “เดอะ กันเนอร์ส” ตอบแน่ชัดว่า “ใช่” ส่วนปัญหาถัดไปว่ามีข้อเสนอยื่นเข้ามาตอนไหน เวนเกอร์ เปิดเผยว่า “ผมไม่บอกคุณเรื่องนั้นหรอก แต่ว่าผมพูดได้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยื่นข้อเสนอให้ผมรับงานจริง”
อาร์แซน ผู้จัดการทีม ชาวฝรั่งเศส วัย 69 ปี ออกมาสารภาพว่าเขาได้ไม่ยอมรับที่จะรับงานกับสมาคมในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ไปแล้ว เนื่องมาจาก เขามีความข้องเกี่ยวที่แน่นแฟ้นกับกลุ่ม“ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ซึ่งเขาเคยดำเนินงานให้กับ สมาพันธ์ที่นี้ถึง 22 ปี ก่อนที่จะแยกทาง กันเมื่อจบฤดู 2017-18
ปัจจุบันเวนเกอร์ ว่างงานมายาวนานถึง 17 เดือน โดยเจ้าตัวกล่าวมาว่าตอนก่อนหน้านี้เขาได้รับข้อเสนอจากหลายทีมในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แม้กระนั้นในที่สุดก็ตอบไม่ยอมรับไปทั้งปวง เพราะเหตุว่าความข้องเกี่ยวกับอดีตสมาคมอย่างอาร์เซนอล
เวนเกอร์เปิดเผยกับสกายสปอร์ต ว่า “ผมเป็นคน ของอาร์เซอนล นอกจากนั้นผมก็มือโปร ผมไม่สามารถ ที่จะหยุดปฏิบัติงานได้ ผมตกลงใจที่จะออกมาจากพรีเมียร์ ลีก เพราะว่าผมมี่ข่าวสารมเกี่ยวโยง กับอาร์เซนอลมากเกินความจำเป็น ผมได้โอกาสได้ดำเนินงานในอังกฤษ แต่ว่าก็ไม่ยอมรับไป ผมอาจบอกมิได้ว่าสมาพันธ์ไหนบ้าง เนื่องจากอาจมีผลพวงกับผู้ที่มีการเกี่ยวข้อง รวมทั้งผมรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขา” เชลซีทัพใหญ่
ที่ปรึกษารายนี้ปัจจุบันนี้ปฏิบัติงานเป็นนักวิเคราะห์ของบีอิน สปอร์ตส์ โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเขาเคยพาอาร์เซนอลครอบครองแชมป์พรีเมียร์ ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 7 ยุค รวมทั้งการเป็นแชมป์ไม่มีปราชัยเมื่อฤดู 2003-04
อาร์แซน ผู้จัดการทีมระดับตำนานของ อาร์เซนอล ออกโรงเชียร์ หงส์แดง กลุ่มผู้นำฝูงในศึก พรีเมียร์ลีก ให้ทำลายสถิติไร้พ่ายที่พวกเขาเคยทำเอาไว้ให้เสร็จให้ได้
เวนเกอร์ยัน พาไอ้ ปืนโตทำสถิติไม่มีพ่ายแพ้ในลีกสูงสุดของอังกฤษนานถึง 49 นัดหมายในตอนปี 2003-2004 แล้วก็ยังไม่แพ้คนใดกันใน พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาล 2003-2004 จนได้รับสมญาว่า ‘อินวินซิเบิ้ล’ หรือกลุ่มไร้พ่ายมาแล้ว
ทางด้าน ลิเวอร์พูล ภายใต้การควบคุมกลุ่มของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็กำลังทำผลงานได้ดีเยี่ยมในซีซันนี้ โดยพวกเขาลงเล่นไปแล้ว 26 นัดหมาย ชนะ 25 และก็เสมอเพียงแต่นัดหมายเดียวรวมทั้งยังไม่แพ้คนไหนกันมาแล้ว 43 เกมเมื่อรวมกับฤดูที่แล้ว
อย่างไรก็แล้วแต่ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวฝรั่งเศสก็สารภาพว่า แม้ว่าจะยังเหลือเกมให้ลงเล่นอีกหลายนัดหมาย แม้กระนั้นเขาก็ไม่เห็นว่าจะมีเหตุมีผลใดที่กลุ่มของ คล็อปป์ จะไม่สามารถที่จะทำลายสถิติที่เขาเคยทำลงได้ และก็มั่นใจว่าเครื่องจักรสีแดงจะไม่แพ้คนใดกันในช่วงฤดูกาลนี้เหมือนกัน
“ย้อนกลับไปเมื่อราว 3 ปีกลาย ในเวลาที่ผมพา อาร์เซนอล ทำศึกสงครามนอร์ธลอนดอนดาร์บี้กับ สเปอร์ส พวกเขาเป็นกลุ่มพลังชายหนุ่มที่บอกให้เห็นถึงความสดใหม่ กระหายในชัยชนะ แกร่งทั่วแผ่น มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียว แล้วก็พร้อมเติบโตอย่างมากไปร่วมกัน” เวนเกอร์ กล่าว
“ไม่ว่าพวกเราจะคิดแผนมาดีเพียงใด สเปอร์ส ในขณะนั้นก็จะต่อสู้ตะลุยอย่างไม่ยอมแพ้จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นยอดเยี่ยมเกมที่ต่างข้างไม่มีผู้ใดยอมคนใดกัน โดยยิ่งไปกว่านั้น อีริคเซน เนี่ยเป็นสะดุดตาเป็นพิเศษทุกนัดหมายจริงๆ”
“มาวันนี้ผมคิดว่าเคมีแบบงั้นหายจนถึงแทบหมดเกลี้ยงแล้ว อีริคเซน ไม่ฮึกเหิมอย่างเดิม ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะเขาไม่คิดฝากอนาคตไว้กับสมาคมที่นี้อีกต่อไป”
“เมื่อคุณเติบโต แน่ๆว่าควรจะมีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยน และก็มันส่งผลให้เกิดช่องว่างขึ้นในใจ ปัญหาเป็น โปเช็ตติโน จะทำอย่างไรให้กลุ่มกลับไปเป็นอย่างนั้นได้อีกรอบ ?”