1. สถิติแดงเดือดที่น่าสนใจ
การพบกันระหว่าง 2 ทีมนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง เพราะจากสถิติที่ผ่านมาอันดับบนตารางคะแนนแทบไม่สามารถชี้วัดผลการแข่งขันได้เลย หากลองดูย้อนไป 9 นัดหลังที่ทั้งคู่พบกันใน พรีเมียร์ลีก ผลออกมาเสมอกันมากถึง 6 นัด หงส์แดง ชนะ 2 และ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะเพียงเกมเดียวเท่านั้น โดยในนัดแรกของฤดูกาลนี้เกมก็จบลงด้วยผลเสมอแบบไร้สกอร์ 0-0 ส่วนใน เอฟเอ คัพ เมื่อช่วงต้นปีเป็น ปีศาจแดง ที่เปิดบ้านเอาชนะไปได้ 3-2 ด้วยกัน
2. โปรแกรมที่จะไม่เป็นอุปสรรค
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของทั้งสองทีมดูเหมือนว่า ลิเวอร์พูล ดูจะได้เปรียบมากกว่าเล็กน้อยเพราะไม่มีคิวลงแข่งฟุตบอลยุโรปช่วงกลางสัปดาห์ ทำให้พวกเขาจะมีเวลาพักก่อนเกมมากกว่าในขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งจะลงเล่นไปเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
แต่อย่างไรก็ตาม ปีศาจแดง ดูเหมือนจะจัดใหญ่ใส่เต็มทุ่มให้กับศึกแห่งศักดิ์ศรีนี้ได้อย่างเต็มที่พอสมควรเนื่องจากพวกเขาถล่ม โรมา ไปอย่างขาดลอยในเกมแรกถึง 6-2 นั่นทำให้เลกสองที่จะบุกไปเยือนกรุงโรมอาจเลือกจะพักตัวหลักบางรายและหันมาทุ่มเทให้กับ “แดงเดือด” สุดสัปดาห์นี้อย่างเต็มที่ได้นั่นเอง
3. คาดการณ์ก่อนเกม
แม้จะขึ้นชื่อว่าแดงเดือด แต่หลายเกมที่ผ่านมาโดยเฉพาะในลีก จะเห็นได้ว่าต่างฝ่ายต่างพยายามเล่นอย่างรัดกุมเอาไว้ก่อนทำให้เกมดูฝืด ๆ เน้นสู้กันแดนกลางและหาจังหวะเข้าทำได้น้อย เช่นเดียวกับวันอาทิตย์นี้ ที่คาดว่า ปีศาจแดง จะมาในรูปแบบที่พวกเขาถนัดคือปล่อยให้ ลิเวอร์พูล ครองบอลและรอโอกาสใช้ความเร็วของแนวรุกในการสวนกลับ อย่างไรก็ตามทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เองแม้จะต้องการ 3 คะแนนเพื่อไล่ล่าตำแหน่งท็อป 4 แต่ 1 คะแนนในวันนี้ก็คงไม่เสียหายและดีกว่าการไร้แต้มติดมือกลับบ้าน นั่นจึงทำให้เกมอาจจะออกมาทรงเดียวกับนัดแรกที่พบกัน ช่วงชิงความได้เปรียบในแดนกลาง และรอโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่งอย่างใจเย็น