การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 14 มิถุนายน 2021
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน : ฝรั่งเศส 1-0 เยอรมนี
สนาม : อลิอันซ์ อารีนา (กรุงมิวนิค)
ประตูชัยที่เกิดจากการทำเข้าประตูตัวเองของ แมตต์ ฮุมเมลส์ ตั้งแต่นาทีที่ 20 ทำให้แนวทางการเล่นของทั้งสองทีมเปลี่ยนไปทันที จากที่ต่างฝ่ายต่างคุมเชิงไม่ผลีผลาม กลับเป็น เยอรมนี ที่ต้องเปิดเกมบุกใส่อย่างเลี่ยงไม่ได้เพื่อหวังเอาประตูคืน ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการเดินไปหากัปดักของ ฝรั่งเศส เลยก็ว่าได้ โดยลูกทีมของ ดิดิเยร์ เดชองส์ เพียงแค่ปล่อยให้คู่แข่งครองบอลกลางสนามไป และรอตั้งรับอย่างใจเย็น โดยอาศัยทีเด็ดจากความเร็วของ เอ็มบัปเป้ ในการสวนกลับ ซึ่งก็มีโอกาสหลายต่อหลายครั้ง แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถบวกประตูที่สองเพิ่มได้เท่านั้น
ตลอดทั้งเกมวันนี้ เยอรมนี เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า แต่ต้องบอกว่าแนวทางในการเข้าทำของพวกเขากลับไร้พิษสงไร้ทีเด็ดทีขาดจนเป็นเหตุแห่งความปราชัยในเกมนี้ ทั้ง 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง มึลเลอร์ ฮาเวิร์ตซ์ และ กนาบรี้ ที่แทบไม่ได้ประสานงานกันเลย รวมถึง 2 วิงแบ็คริมเส้นที่วันนี้ทำหน้าที่ได้ต่ำกว่ามาตรฐาน จนไม่มีลูกครอสริมเส้นสวย ๆ กดดันแนวรับของ ฝรั่งเศส มากเท่าที่ควร แถมตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาอย่าง แวร์เนอร์ ซาเน หรือแม้แต่ โฟลันด์ ก็ไม่สามารถสร้างความแตกต่างอะไรได้ นี่จึงเป็นการบ้านจุดใหญ่ที่ เลิฟ ต้องรีบปรับแก้ก่อนอะไร ๆ จะสายเกินไป
คิเลียน เอ็มบัปเป้ ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในวันนี้ว่าเขาคือระดับโลกอย่างแท้จริง ด้วยความเร็วชนิดที่น่าไปเป็นนักวิ่งมากกว่านักบอล แถมยังมีความเฉียบขาดในการจบสกอร์ ทำให้ผลงานวันนี้ถึงแม้จะไม่มีประตูแต่ก็ต้องบอกว่าโดดเด่นฉายแววมาแต่ไกล
ส่วนทาง เยอรมนี แน่นอนว่าหากดวลตัวต่อตัวโดนกระชากไงก็หาย ตามไม่ทันแน่นอน แต่ แมตต์ ฮุมเมลส์ เองก็แสดงให้เห็นถึงการรับมือนักเตะในลักษณะนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการใช้ประสบการณ์ความเก๋าบวกกับเซนต์บอลความแม่นยำในการเข้าสะกัดจนสังเกตุได้ว่าเมื่อ 2 คนนี้ดวลกันทีไร เรามักจะเห็นการต่อสู่อันงดงามของผู้เล่น 2 สไตล์ทั้งทักษะความเร็วอันจัดจ้าน และเลห์เหลี่ยมบอลจากประสบการณ์ ที่ทำออกมาได้อย่างคู่คีสูสีดูเพลินตาเลยทีเดียว
ต้องบอกว่า 3 คะแนนของ ฝรั่งเศส ในเกมนี้ แทบจะส่งพวกเขาเข้ารอบเลยก็ว่าได้ เพราะนัดต่อไปพวกเขาต้องเจองานง่ายด้วยการพบกับ ฮังการี ที่เพิ่งแพ้ต่อ โปรตุเกส มา 3-0 ซึงหากไม่มีอะไรผิดพลาด 6 คะแนนของ ทัพตราไก่ จะทำให้พวกเขาคลายความกดดันในเกมสุดท้ายที่ต้องเจอกับ โปรตุเกส ในทันที
แต่ฝั่ง เยอรมนี ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ กดดันให้พวกเขาต้องคว้า 3 คะแนนในนัดต่อไปที่ต้องพบกับ โปรตุเกส ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงอย่างไม่มีทางเลือก ซึ่งคงเป็นเกมที่กดดันสุด ๆ ไม่ต่างจากนัดนี้เลยทีเดียว ต้องมาลุ้นกันว่าสุดท้ายแล้ว ทัพอินทรีเหล็ก จะสามารถคัมแบ็คกลับมาผงาดได้อีกครั้งหรือไม่ หรือจะปลิวตกรอบแรกซ้ำรอยศึกฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา