ชนะแล้วยังไง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้กลุ่มตนควรได้เพียงแค่แต้มเดียว
ชนะแล้วยังไง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม ยอมรับว่า ทีมตนทำผลงานได้ไม่คู่ควรกับการได้ 3 แต้ม ถึงแม้เป็นฝ่าย คว้าแชมป์ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ทัพ “ปีศาจแดง” บุกเชือด ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา
เกมของ ไบรท์ตัน ดูดีกว่า และเป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนจากการยิงลูกจุดโทษสุดเหนือชั้นของ นีล โมเปย์ ในนาทีที่ 40 แต่ว่าจากนั้นเพียงแค่ 3 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ 1-1 ได้เสร็จ บ้านผลบอล
จากการทำเข้า ประตูตัวเองของ ลูอิส ดังค์ ตอนช่วงหลัง “ปีศาจแดง” กลับขึ้นนำ 2-1 จากการยิงอันเยือกเย็นของ มาร์คัส แรชฟอร์ด จากนั้น ไบรท์ตัน เดินเกมรุกต่อเนื่อง แต่ว่าทำเป็นแค่เสียว ซึ่ง 3 แต้มกำลังจะเป็น ของกลุ่มเยี่ยมอยู่แล้ว
แม้กระนั้นแล้วนาทีที่ 90+5 ไบรท์ตัน ไล่เจ๊าเป็น 2-2 จากการโหม่งโล่งๆของ โซลลี่ มาร์ช แม้กระนั้น มีเหตุการณ์ ดราม่าซ้อนดราม่า เพราะเหตุว่า ภายหลังที่ ได้เขี่ยบอลกลับมาเล่น พวกเขาก็มาได้ลูกเตะมุม
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้ขึ้นโขกย้อยๆแต่ มาร์ช โหม่งเคลียร์ทิ้งบนเส้นออกไป ซึ่งผู้ตัดสิน คริส คาวานาห์ ก็เป่านกหวีดจบเกม โดยทันที แต่ว่าบรรดานักฟุตบอล “ปีศาจแดง” ไม่ยอม วิ่งกรูเข้าไปประท้วงขอลูกจุดลูกโทษ
ซึ่ง คาวานาห์ ก็กลับคำพูดตัดสิน ชี้ให้ ได้ลูกโทษ หลังภาพช้าจาก VAR ชี้ชัดว่า บอลไปโดนมือ โมเปย์ รวมทั้งสุดท้าย บรูโน่ แฟร์นันด์ส สังหารเข้าไปอย่างเฉียบขาด ทำให้กลุ่มเยี่ยมคว้า 3 แต้ม เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม แบบสุดระทึก
“เราสมควรได้หนึ่งแต้มจากเกมนี้ พูดกันแบบแฟร์ๆเลย ผมไม่คิดว่า พวกเราจะมาทำคะแนนได้หลังสิ้นเสียงนกหวีด แม้กระนั้นแน่ๆว่า การทำแฮนด์บอลมันเกิดขึ้นก่อนจบเกม ด้วยเหตุผลดังกล่าวมันก็ถูกที่เป่าให้เป็นลูกจุดลูกโทษ
ช่องทางยิงก็เยอะ โดยเหตุนี้พวกเราก็เลยต้องปรับปรุงอีกมากในนับเป็นเวลาหลายสัปดาห์หลังจากนี้” โซลชา กล่าว ตั้งแต่แมื่อหลังปิดตลาดซื้อขาย ช่วงหน้าหนาว ที่ผ่านมา ทำผลงานได้จำพวก ที่จะต้องยืนขึ้นตบมือกันทั้งบ้านทั้งเมือง
พวกเขาลงเล่นทั้งหมด 8 เกมรวมทุกรายการ สามารถเก็บชัยชนะได้ 5 นัดและเสมอ 3 นัด ยิ่งเมื่อนับเป็น 10 เกมหลังสุดกลุ่ม ปีศาจแดง เก็บชัยได้ถึง 7 นัด รวมทั้งก้าวขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ใน พรีเมียร์ลีก เป็นที่เรียบร้อย
แน่ๆว่าความร้อนแรงเกินยับยั้งใจนี้ส่วนหนึ่งส่วนใดมาจากการกำเนิดจากหลุมของปีศาจตัวใหม่อย่าง บรูโน มาร์ เอ้ย แฟร์นันเดส ที่มีส่วนเข้ามากระตุ้นให้กลุ่มทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและก้าวขึ้นมามีลุ้นพื้นที่ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างเต็มตัวอีกครั้ง
แม้กระนั้นขณะที่คนไม่ใช่น้อยกำลังหลงไหลได้ปลาบปลื้มกับผลงานอันเอกอุของกองกลางชาวโปรตุกีส มีชายผู้หนึ่งกำลังยืนยิ้มตาเป็นประกายพลางมองดูผลงานของสมาชิกด้วยความภาคภูมิใจอยู่เบื้องหลัง ชายผู้นั้นคือ โอเล กุนนาร์ โซลชา
ก่อนหน้านี้เสียงก่นด่าและไล่ส่งดังขึ้นมาเป็นระยะจากผลงานที่ขึ้นลงราวรถไฟเหาะตีลังกา เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวร้องไห้ สักครู่ดีใจ ทำแฟนบอลเหมือนคนเป็นไบโพลามาเกือบจะอีกทั้งฤดู แต่ว่าในตอนก.พ.ก่อนหน้านี้กับผลงานที่สุดยอดและก็ไล่จี้ เชลซี กลุ่มชั้น 4 กระทั่งเหลือ 3 คะแนน
ผู้คนจำนวนมากเริ่มมีหวัง แล้วก็เป็นความหวังที่ไม่ลมๆแล้งๆเมื่อพวกเขามี บรูโน แฟร์นันเดส ที่แสดงความคุ้มราคาตัวตั้งแต่เดือนแรกที่ลงสู่สนามให้กับกลุ่ม ดังนี้ทำให้หลายท่านหันมาดูที่ ว่าหรือชายคนนี้จะเป็นผู้วิเศษ
หรือเขาเป็นผู้ที่ ยููไนเต็ด ตามหามานาน ขอเพียงให้เวลาเขาได้สร้างกลุ่มอย่างที่ตั้งหัวใจ ความยิ่งใหญ่ก็จะกลับมา โดยเหตุนี้ด้วยผลงานที่มองเห็นรวมทั้งแนวโน้มที่คงจะออกมาดีในอนาคต นี่ก็เลยเป็น 4 เหตุผลที่พวกเราควรจะมอบโอกาสโอเล ได้ไปต่อกับ ในซีซันหน้า อาวุธเด็ดโชต้า
มักโดนพร่ำบ่นประเด็นการวางแผนเล่นแล้วก็การแก้เกมอยู่เป็นประจำ ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วเจ้าตัวก็ไม่ได้มีแผนในการอะไรสลับซับซ้อน พวกเราจะมองเห็นได้ว่าที่ผ่านมา ยูไนเต็ด มีแนวทางการเล่น 2 แบบ
ชนะแล้วยังไง แบบหนึ่งไว้ใช้กับกลุ่มเล็กแล้วก็กลุ่มกลางตารางซึ่งพวกเขาชอบเป็นข้างครอบครองบอลเพื่อบุกทำคะแนน อีกแบบหนึ่งในเกมที่พบกับกลุ่มระดับเดียวกันเกมสวนกลับจะถูกงัดออกมาใช้เป็นพื้นฐาน
ว่ากันตามตรงแท็คติกอย่างงี้มันมิได้มีอะไรผิดพลาด แค่เพียงคุณภาพของนักฟุตบอลที่มีอยู่ในมือมันยังไม่อาจจะเล่นได้ตามแผนที่วางไว้แค่นั้น โน่นก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดแนวทางการทำผลงานกับกลุ่มเล็กไม่ได้การ
แต่ว่าดันไปเก่งกับกลุ่มใหญ่ ซึ่งเอาเข้าจริงกลุ่มเล็กมันก็มีมากยิ่งกว่ากลุ่มใหญ่เสียด้วย การเอาชนะ หงส์แดง , แมนเชสเตอร์ ซิตี้ , เชลซี , อาร์เซนอล และ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ได้แบบไปกลับเต็มที่ก็ได้ 30 คะแนน
แถมไม่ใช่งานง่าย สู้ไปเอาชนะกลุ่มขนาดกึ่งกลางและก็ขนาดเล็กอีก 14 กลุ่มยังมีสิทธิลุ้นแชมป์มากยิ่งกว่า แม้กระนั้นพอได้ บรูโน เฟอร์นันเดส เข้ามาเพิ่มในแนวรุกเปลี่ยนเป็นว่า 5 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก นั้นพวกเขาเก็บได้ถึง 11 คะแนนจาก 15 คะแนนเต็ม
ชนะแล้วยังไง รวมทั้งทรงของเกมก็ดีแล้วขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเลยทีเดียว นี่ก็เลยน่าจะเป็นหลักฐานว่าแท็คติกและก็กลยุทธ์เล่นของ นั้นมิได้แย่อย่างที่หลายคนค่อนขอด เพียงแค่ศักยภาพของนักฟุตบอลยังไม่อาจจะสนองตอบสิ่งที่เขาจัดตั้งให้กับกลุ่มได้
และก็ถ้าเกิดจะคิดเข้าข้างตนเองอีกหน่อยว่าในตอนซัมเมอร์นี้หาก เอ็ด วู้ดเวิร์ด จัดการดึงตัวนักฟุตบอลอย่าง แจ็ค กรีลิช, เจมส์ แมดดิสัน และก็ เจดอน ซานโช มาร่วมทีมได้ ลองคิดดูว่าพวกเขาจะน่ากลัวขขนาดไหน
เนื่องจากว่าเคยเป็นนักฟุตบอลที่ค้าลำแข้งกับกลุ่มมาอย่างช้านาน คงจะได้ซับถึงรากฐานและก็ปรัชญาของ ค่อนข้างจะมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการได้ร่วมงานกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ปรึกษาผู้วางรากฐานให้กับสโมสรตลอด 26 ปี
กุนซือนอร์วีเจี้ยนได้มองเห็นถึงวิวัฒนาการรวมทั้งได้รับรู้เรื่องรู้ราวเป็นไปของสมาพันธ์ตลอดตอนที่ค้าแข้งอยู่ตรงนั้น สิ่งกลุ่มนี้ทำให้เขาสามารถเอามาประยุกต์สำหรับการคุมกลุ่ม
เขาค่อยๆสร้างกลุ่มอย่างค่อยๆเป็น ค่อยๆไปตามปรัชญาของสมาคมแม้กระนั้นก็ไม่ลืมที่จะใส่ความเป็นตัวเองลงไปด้วย ซึ่งมองได้จากการมอบโอกาสนักฟุตบอลดาวรุ่งอย่างใหญ่โตในซีซันนี้
แต่ด้วยการที่กระแสธารความร้อนแรงของ หงส์แดง แล้วก็ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตอน 2 ปีข้างหลังมานี้ อาจจะก่อให้แฟนบอลอดรนทนไม่ได้กับการวางรากฐานที่ โซลชา กำลังทำอยู่
ยามที่กลุ่มพ่ายแพ้พวกเราก็เลยได้ยินเสียงก่นดุด่าว่ากล่าวมือไม่ถึงหรือไร้กึ๋นสำหรับการแก้เกม แม้กระนั้นก็อย่าลืมว่านี่เป็นฤดูแรกของเจ้าตัวเพียงแค่นั้น กับทรัพยากรที่มีอยู่ในมือรวมทั้งการเริ่มต้นใหม่ทั้งสิ้นก็เลยไม่ใช้ว่าจะง่ายที่จะพาทีมกลับขึ้นมาใน พรีเมียร์ลีก ได้ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน
สิ่งที่จำเป็นเป็น แฟนบอล ปีศาจแดง จำเป็นต้องไม่ลืมเลือนว่ากว่าที่ เซอร์ อเล็กซ์ จะพาทีมกลับสู่ความโหฬารได้นั้นเขาจะต้องใช้เวลาแทบ 7 ปีกว่าจะกลับมาได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้เมื่อปี 1992 และก็ต่อไป แมนฯ ยูไนเต็ด
ก็เปิดเครื่องยาวกระทั่งเปลี่ยนเป็นกลุ่มลำดับที่หนึ่งของเกาะอังกฤษจนถึงทุกวันนี้ คำว่า ‘พื้นฐาน’ รวมทั้ง ‘การคอย’ นั้นไม่ใช่เรื่องที่เชยจนกระทั่งเกินความจำเป็นในสมัยที่ความยิ่งใหญ่ของบอลถูกเสกด้วยจำนวนเงินมากมาย
ด้วยเหตุว่าตอนท้ายแล้วความยั่งยืน และมั่นคงของชมรมหนึ่งๆจำเป็นต้องมาจากปรัชญาของการทำงานอีกทั้งตรงหน้าแล้วก็เบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งรู้เรื่องเรื่องเหล่านี้ดี ก็แค่แฟนบอลนั้นจะเรับรู้เช่นกันหรือเปล่า เพียงเท่านั้น