
คาวานี่ประเดิม “ปีศาจแดง” ยังต้องหาชัยชนะในบ้านเกมลีกฤดูกาลนี้ถัดไป ข้างหลังทำเป็นเพียงแค่เสมอกับ เชลซี แบบไร้สกอร์ 0-0 ในเกมบิ๊กแมตช์
คาวานี่ประเดิม โดยเกมนี้ เอดินสัน คาวานี่ ลงมาเป็นสำรองเปิดฉากเกมแรกให้ แมนฯยูไนเต็ด ด้าน “สิงห์บลูส์” เกมนี้ได้ เอดูอาร์ เมนดี้ ช่วยเซฟทำให้บุกมาแบ่งแต้ม ทำสถิติเสมอ 3เกมติดทุกรายการ
“บิ๊กแมตช์” พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนนี้วันเสาร์ที่ 24 เดือนตุลาคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด กลับมาเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อกร เชลซี โดย “ปีศาจแดง” เกมปัจจุบันในลีกบุกไปถลุง นิวคาสเซิ่ล 4-1
ก่อนที่จะกึ่งกลางอาทิตย์ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกจะบุกไปอัด เปแอสเช 2-1 ตอนที่ฝั่ง “สิงห์บลูส์” ตลอดมา 2เกมติดๆในสแตมฟอร์ด บริจด์ ทั้งยังในลีกที่แบ่งแต้มกับ “นักบุญ” 3-3 ก่อนที่จะเสมอในรังกับ เซบีย่า แบบไม่มีสกอร์ 0-0
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ใช้ 11 แข้งตัวจริงชุดเดียวกับที่บุกไปกระหน่ำ “สาลิกาดง” ฆวน มาต้า ปั้นเกมร่วมกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส รวมทั้งแดเนียล เจมส์ โดยให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยืนหน้าเป้า ส่วน เอดินสัน คาวานี่ มีชื่อบนม้านั่งสำรอง ด้าน แฟร้งค์ แลมพาร์ดวันนี้จัดสามแนวรุกเป็น ไค ฮาแวร์ทซ์, คริสเตียน พูลิซิช และก็ ติโม แวร์เนอร์ บ้านผลบอล
ตอน 15 นาทีแรก ทั้งคู่กลุ่มเล่นกันอย่างถี่ถ้วนจนถึงไม่มีจังหวะ หรือจังหวะย้ำๆให้ได้ลุ้น แต่ว่าแปลงเป็น “สิงห์บลูส์” ที่บีบคั้นและก็เข้าไปในพื้นที่อันตรายได้มากกว่า18 ช่องทางยิงคราวแรกของเกม แต่ว่า คริสเตียน พูลิซิช กดด้วยขวานอกกรอบไปติดบล็อคของลำแข้งเจ้าถิ่น
ยังคงเป็นสมาชิกของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ครอบครองบอลได้เหนือกว่า (33-67%) 26 “สิงห์บลูส์” คลาดโอกาสลุ้นข้างหลัง เบน ชิลเวลล์ ตักบอลให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ หลุดกับล้ำหน้าแทงทะลุช่องให้ ติโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าไปแต่ว่าเจ้าตัวกลับเจ้าบอลไม่อยู่บอลหลุดข้างหลังโชคร้าย
อีกนาทีต่อมา ชิลเวลล์ เรียกฟรีคิกด้านซ้ายได้ ก่อนเจ้าตัวจะลุกมาเปิดเอง แม้กระนั้นบอลลึกไปเข้ามือ เด เคอา 29 เอดูอาร์ เมนดี้ แทบได้ทำผิดพลาดข้างหลังเจ้าตัวเพียรพยายามส่งบอลกีดขวางประตูตนเอง แต่ว่าออกบอลไม่ดีเกือบจะเลี้ยวเข้าประตูตนเองก่อนออกข้าง หลังเป็นเตะมุม
เกมรุกของ “ผีแดง” เริ่มดียิ่งขึ้น 31 จังหวะส่องเข้ากรอบหนแรกของเจ้าถิ่น รวมทั้งคราวแรกของเกม แดเนียล เจมส์ ไหลให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตะบันนอกกรอบ บอลไปเข้ามือ เมนดี้
คาวานี่ประเดิม แม้กระนั้น สวนกลับทันที อีกนาทีถัดมา คริสเตียน พูลิซิช ตะลุยพาบอลเข้าไปกดด้วยขวา แม้กระนั้น บอลไปไถล วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ออกข้างหลัง
36 แมนฯยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองคำ ขึ้นนำ ข้างหลัง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ตัดบอลได้ก่อนให้ มาต้า แทงบอลเร็วให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปกดด้วยขวาเน้นย้ำๆแต่ว่าบอล ยังไปติดขา เอดูอาร์
แปลงเป็น “ผีแดง” ที่เริ่มบีบคั้นหนักขึ้นเรื่อยนาที 41 หวุดหวิดได้ประตูอีกที ตอนนี้ แรชฟอร์ด จ่ายให้ ฆวน มาต้า กดด้วยซ้ายนอก กรอบบอลพุ่งไปเสาไกลแต่ว่า ยังไม่พ้น เอดูอาร์ ที่โชว์บินปัด ออกหลังเฉียด
43 แรชฟอร์ด มีลักษณะอาการเจ็บ ข้างหลังโดน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เตะในกรอบจุดโทษ แต่ว่าผู้ตัดสิน ข้างหลังเช็กสัญญาณจาก VAR ไม่ว่าอะไรให้เล่นถัดไป เป็ปเปิดเผย
จบครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ด ยังเสมอกับ เชลซี 0-0 ช่วงหลัง 58 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เปลี่ยนแปลงรวด เดียวสองคน ส่ง เอดินสัน คาวานี่ แล้วก็ปอล ป็อกบา ลงไปเล่นแทน ฆวน มาต้า รวมทั้งแดเนียล เจมส์
แล้วก็เพียงแค่ สัมพัสแรกของ ในนาทีต่อมา แทบพาทีมขึ้นนำ จากชอตตลอดจากลูกเตะมุม บรูโน่ แฟร์นันด์ส ครอสมาเสาแรกให้ โฉบมาสะกิดบอลด้วยขวาพุ่งถากเสาออกไป แบบได้เสียว
นาที 72 แก้เกมบ้าง ส่ง เมสัน เมาน์ท และก็แทมมี่ อบราฮัม ลงมาเล่นแทน ไค ฮาแวร์ทซ์ แล้วก็ติโม แวร์เนอร์ ด้านหลังเกม 80 “ผีแดง” ได้ลุ้นจากจังหวะยิงของ ปอล ป็อกบา แต่ว่าห้องเครื่อง กลุ่มชาติฝรั่งเศสดันยิงไปติดบล็อคอย่างโชคร้าย
คาวานี่ประเดิม นาที 88 เจ้าของบ้าน เกือบจะได้ลุ้นอีก ข้างหลัง เมสัน กรีนวู้ด ที่ลงมาสำรองปาดมาเสาแรกให้ เอดินสัน ยิงไปติดบล็อค แนวรับสิงห์บลูส์
ตอนทดเจ็บ นาที 90+1 ปีศาจแดง พลาดโอกาสขึ้นนำอีกหลัง แรชฟอร์ด ปั่นบอลจากนอกกรอบกำลังจะเสียบเสาไกลอยู่สุดแท้แต่ เอดูอาร์ เมนดี้ ยังโชว์เหนียวพุ่งปัดออกไป
จบเกม กินกันไม่ลง แมนฯยูไนเต็ด ทำเป็นเพียงแค่เสมอกับ เชลซี แบบไม่มีสกอร์ 0-0 ทำให้ “ผีแดง” ยังแพ้คู่แข่งขันในบ้านฤดูกาลนี้ถัดไป เวลาที่ ตลอดมา 3 เกมติดทุกรายการ